Research Blog
งานวิจัย
Beauty Blog
ความงาม
ไลฟ์สไตล์
SB Interlab News
ข่าวสารเอสบี

Hair Strength Science: งานวิจัยใหม่ที่บอกวิธีดูแลเส้นผมให้แข็งแรงจากภายใน

July 1, 2025
Reading Count
Table of Contents

Hair Strength Science: งานวิจัยใหม่ที่บอกวิธีดูแลเส้นผมให้แข็งแรงจากภายใน

ถ้าพูดถึงการดูแลผมให้แข็งแรง เรามักนึกถึงการใช้แชมพูหรือคอนดิชันเนอร์ดี ๆ แต่เมื่อฉันศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับโครงสร้างผมและปัจจัยที่ทำให้ผมอ่อนแอ พบว่าความแข็งแรงของเส้นผมไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ผลิตภัณฑ์ภายนอก แต่เกี่ยวข้องกับชีววิทยาของเส้นผม โภชนาการ และกระบวนการดูแลในชีวิตประจำวันอย่างละเอียด

ฉันจะพาไปสำรวจงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับเส้นผมใน 7 หัวข้อ เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีดูแลผมให้แข็งแรงในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์

เส้นผมคืออะไรในเชิงวิทยาศาสตร์?

งานวิจัย Robbins (2012) ใน Chemical and Physical Behavior of Human Hair อธิบายว่า เส้นผมคือเส้นใยโปรตีนที่สร้างจากเซลล์ keratinocyte ใน hair follicle เมื่อเซลล์เคลื่อนตัวขึ้นสู่ผิวหนังจะตายและกลายเป็นเส้นผมที่เราสัมผัส

 ● โครงสร้างผม 3 ชั้น: cuticle, cortex, medulla

 ● ความแข็งแรงของเส้นผม: cortex เป็นส่วนสำคัญสุดเพราะประกอบด้วย keratin fiber และ disulfide bond ที่เพิ่มแรงต้านทานต่อการดึงและแรงดัด

ในงานวิจัยเดียวกัน Robbins พบว่า cuticle เป็นด่านแรกในการป้องกันความเสียหาย หาก cuticle ถูกกัดกร่อน ผมจะสูญเสียน้ำ ความเงางาม และขาดง่ายขึ้น

ความร้อนและสารเคมีทำลายโครงสร้างเส้นผมอย่างไร?

งานวิจัยของ Lee et al. (2018) ใน Annals of Dermatology ศึกษาผลกระทบของความร้อนและสารเคมีต่อผม พบว่า

 ● การใช้ความร้อนสูง (>150°C) ทำให้ cuticle แตกหัก เผย cortex ภายใน
การกัดสีผม (bleaching) ทำลาย disulfide bond ภายใน cortex โดยตรง ลดความแข็งแรงของเส้นผมลงกว่า 40% หลังการกัดสีเพียงครั้งเดียว

 ● การย้อมสีผมซ้ำๆ ทำลายทั้ง cuticle และ cortex เพิ่มการสูญเสียโปรตีน ทำให้เส้นผมเปราะบาง

จึงไม่น่าแปลกใจที่ผมที่ถูกย้อมหรือกัดสีจะขาดง่าย แม้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมราคาแพง หากโครงสร้างภายในเสียหายแล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงจะทำได้แค่เคลือบภายนอก ไม่สามารถซ่อมแซม disulfide bond ที่ขาดได้

ทำไมโปรตีนเคราตินจึงสำคัญกับเส้นผม?

เส้นผมประกอบด้วย keratin มากกว่า 95% โดย keratin เป็นโปรตีนเส้นใย (fibrous protein) ที่มี cysteine สูง ทำให้เกิดพันธะกำมะถัน (disulfide bond) ซึ่งสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น

งานวิจัยของ Trüeb (2016) ตีพิมพ์ใน Journal of Dermatological Treatment ระบุว่า

 ● เคราตินไฮโดรไลซ์ในแชมพูหรือคอนดิชันเนอร์ สามารถเกาะบน cuticle ช่วยเติมเต็มช่องว่างของ cuticle ที่เสียหาย

 ● เคราตินไฮโดรไลซ์โมเลกุลเล็ก สามารถซึมเข้าสู่ cortex ชั่วคราว เพิ่ม tensile strength ของเส้นผม แต่ไม่ใช่การซ่อมแซมถาวร

ดังนั้น แม้เคราตินไฮโดรไลซ์จะไม่สามารถซ่อมแซมพันธะที่ถูกทำลาย แต่ก็ช่วยเคลือบและลดการขาดร่วงในชีวิตประจำวันได้

น้ำมันพืชปกป้องเส้นผมได้จริงหรือ?

งานวิจัยของ Rele & Mohile (2003) ทดสอบน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก และน้ำมันแร่ พบว่า

 ● น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) มีกรดลอริก (Lauric Acid) โมเลกุลเล็ก แทรกซึม cortex ได้ดี ลดการสูญเสียโปรตีนระหว่างสระผมได้มากกว่าน้ำมันชนิดอื่น

 ● น้ำมันมะกอก (Olive Oil) ไม่ซึมเข้าสู่ cortex ได้เท่าน้ำมันมะพร้าว แต่เคลือบ cuticle ได้ดี ลดการเสียดสีและผมพันกัน

 ● น้ำมันแร่ (Mineral Oil) ไม่ซึมเข้า cortex แต่เคลือบผมป้องกันการสูญเสียน้ำ

งานวิจัยนี้เป็นหลักฐานที่สนับสนุนการหมักผมด้วยน้ำมัน (oil pre-treatment) ก่อนสระเพื่อลดความเสียหายของ cuticle และ cortex

วิตามินและแร่ธาตุมีบทบาทอย่างไร?

บทบาทของวิตามินและแร่ธาตุต่อสุขภาพผม พบว่า

 ● Iron (ธาตุเหล็ก): ขาดแล้วผมร่วงจากการสร้างเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอ

 ● Zinc (สังกะสี): ช่วยสร้างโปรตีนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อผม

 ● Biotin (Vitamin B7): จำเป็นต่อการสร้าง keratin รากผมแบ่งตัวไว จึงต้องใช้ biotin ในปริมาณมาก

 ● Vitamin D: มีบทบาทกระตุ้นการเจริญเติบโตของ hair follicle

 ● Omega-3: ลดการอักเสบของหนังศีรษะ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ cuticle

ผู้ที่ขาดวิตามินเหล่านี้จะพบปัญหาผมร่วงและผมอ่อนแอ การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน เหล็ก ซิงค์ ไบโอติน และไขมันดี จึงสำคัญต่อสุขภาพผมมากกว่าการทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียว

เปปไทด์กับการสร้างผมแข็งแรง: งานวิจัยใหม่ล่าสุด

Copper Peptide (GHK-Cu) ถูกศึกษาว่าสามารถกระตุ้นการเจริญของ hair follicle

 ● งานวิจัยใน International Journal of Cosmetic Science (2007) พบว่า Copper Peptide ช่วยเพิ่ม vascular endothelial growth factor (VEGF) กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดเลี้ยงรากผม และกระตุ้นการสร้าง collagen และ keratinocyte ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น

ผลิตภัณฑ์ดูแลผมในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นหลายยี่ห้อเริ่มใส่ copper peptide เป็น active ingredient สำหรับป้องกันผมบางและเสริมความแข็งแรงเส้นผม

หลักการดูแลเส้นผมให้แข็งแรงจากงานวิจัย

จากการทบทวนงานวิจัยหลายฉบับ ฉันสรุปได้ว่า

ปกป้อง cuticle ด้วยการเลี่ยงสารเคมีและความร้อนสูง

เติมโปรตีนเคราตินไฮโดรไลซ์ เพื่อลดช่องว่างใน cuticle

ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือมะกอกหมักก่อนสระ ลดการสูญเสียโปรตีน

รับประทานอาหารโปรตีนสูง เหล็ก สังกะสี และไบโอติน เพื่อให้รากผมสร้างเส้นผมใหม่ได้เต็มที่

ทดลองผลิตภัณฑ์ที่มี copper peptide หากต้องการเพิ่มความแข็งแรงและกระตุ้นการงอกใหม่

References

● Robbins, C. R. (2012). Chemical and Physical Behavior of Human Hair. Springer.
● Rele, A. S., & Mohile, R. B. (2003). Effect of mineral oil, sunflower oil, and coconut oil on prevention of hair damage. Journal of Cosmetic Science.

● Lee, W. S., et al. (2018). Hair shaft damage from heat and dyeing. Annals of Dermatology.

● Trüeb, R. M. (2016). Shampoos: Ingredients, efficacy and adverse effects. Journal of Dermatological Treatment.
● Ganceviciene, R., et al. (2012). Skin anti-aging strategies. Dermato-Endocrinology.

● Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology (2017). Role of vitamins and minerals in hair loss.

● Pickart, L., & Margolina, A. (2007). GHK peptides for skin and hair rejuvenation. International Journal of Cosmetic Science.

Recommended Products

Related Knowledges